Erling haaland นักเตะดาวรุ่ง มหัศจรรย์ พลังตรีนจอมมารบลู
นักเตะดาวรุ่งคนนี้ ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ ที่น่าทึ่ง เป็นอย่างมาก เขาสะสมเริ่มมีชื่อเสียง มาซัก 3 -4 ปีได้ จนกระทั่งเขาได้ย้าย เข้ามาร่วมถิ่น สโมสร Manchester city football club เขาได้โชว์ ศักยภาพ อันน่าทึ่ง ในการทำประตู เพียงผ่านไปไม่กี้ แมทต์เท่านั้น อันเป็นความน่าตื่นเต้น ที่เราจะได้เห็นนักเตะยุคใหม่ อายุน้อย ที่จะมอบความสุข ให้ผู้ชมทั่วโลก ได้ชม และ ติดตามเขา
แน่นอน ทำให้เรานึกถึง ยุคของ นักเตะชื่อดังหลายคน ในอดีต และ ที่กำลังจะเป็น อดีต ในเร็ววันนี้ ไม่ว่าจะเป็น ลิโอเนลเมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กำลังจะโรยรา และ รีไทน์ ในเร็ววันนี้ แต่เมื่อได้เห็น อาลิง เบราต์ โฮลัน เราผู้ชม ก็ห่ายห่วง ว่าจะไม่มีนักเตะพรสววรค์สูง อีกต่อไป ต่อไปนี้จะเป็นประวัติ ของนักเตะคนนี้ ( ข้อมูลอ้างอิงจาก wikipedia)
อาลิง เบราต์ โฮลัน (นอร์เวย์: Erling Braut Haaland, เดิมสะกดว่า Håland, [ˈhôːlɑn]; เกิด 21 กรกฎาคม ค.ศ. 2000) เป็นนักฟุตบอลชาวนอร์เวย์ ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าให้แก่แมนเชสเตอร์ซิตีและทีมชาตินอร์เวย์ เขาเป็นผู้เล่นที่ถนัดในด้านการทำประตู และได้รับการยกย่องในด้านฝีเท้า การวิ่ง ความแข็งแรง และทิศทางการจ่ายบอล จนอาจเป็นหนึ่งในกองหน้าตัวเป้าที่ดีที่สุดในโลก[5]
โฮลันเริ่มต้นอาชีพกับสโมสรในบ้านเกิดอย่างบรีเนอใน ค.ศ. 2016 และย้ายไปม็อลเดอในปีถัดมา เขาลงเล่นให้กับม็อลเดอสองปีก่อนที่จะเซ็นสัญญากับเร็ดบุลซัลทซ์บวร์คในออสเตรียเมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 2019[6] เขาพาทีมชนะเลิศออสเตรียนบุนเดิสลีกาสองสมัย และออสเตรียนคัพหนึ่งสมัย และในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 เขาเป็นผู้เล่นดาวรุ่งคนแรกที่ทำประตูในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้ถึงห้านัดติดต่อกัน[7] ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2019 โฮลันได้ย้ายไปโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ ซึ่งเขาประสบความสำเร็จกับการทำประตูในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาล 2019–20 จนกลายเป็นผู้เล่นดาวรุ่งคนที่สองที่ทำถึง 10 ประตูในรายการนี้ เขาชนะเลิศถ้วยรางวัลหนึ่งรายการกับสโมสรในเดเอ็ฟเบ-โพคาล ฤดูกาล 2020–21 และได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของบุนเดิสลีกา
แม้ว่าจะมีสิทธิ์เลือกเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ แต่โฮลันเลือกเล่นให้กับนอร์เวย์ หลังจากฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี 2019 ที่เขาได้รับรางวัลรองเท้าทองคำจากการทำคนเดียวเก้าประตูในหนึ่งนัดจนสร้างสถิติใหม่ โฮลันลงเล่นให้กับทีมชาตินอร์เวย์ชุดใหญ่ครั้งแรกใน ค.ศ. 2019[8]
โฮลันเกิดในวันที่ 21 กรกฎาคม ค.ศ. 2000 ที่ลีดส์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งAlfie Haaland บิดาของเขา เป็นนักฟุตบอลที่กำลังลงเล่นในพรีเมียร์ลีกในตอนนั้น[9] ต่อมาใน ค.ศ. 2004 เขาย้ายไปบ้านเกิดของพ่อแม่ที่บรีเนอ ประเทศนอร์เวย์ ตอนอายุ 3 ขวบ[10][11]
โฮลันเริ่มเล่นให้กับทีมเยาวชนของบรีเนอในวัยห้าขวบ[12][13] ในบทสัมภาษณ์ของ โกล Alf Ingve Berntsen อดีตผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนของโฮลัน พูดถึงพรสวรรค์ในวัยเด็กของเขาว่า:
“ | ผมเห็นโฮลันครั้งแรกตอนเขาอายุห้าขวบ เมื่อเขาเข้าร่วมทีมและฝึกซ้อมกับกลุ่มเพื่อนที่อายุมากกว่าหนึ่งปี สองสัมผัสของเขานำไปสู่ประตู เขาเล่นได้ดีมาก ๆ ในช่วงแรกของเขา แม้ว่าตอนนั้นเขาจะยังไม่เคยเล่นในสโมสรมาก่อน เขาเริ่มเล่นในกลุ่มอายุของเขา แต่เป็นเพราะเขาดีกว่าคนอื่นมาก ๆ เราจึงต้องดึงเขาขึ้นไปเล่นในรุ่นอายุไม่เกิน 6 ปี[14] | ” |
ระหว่างฤดูกาล 2015–16 โฮลันได้เล่นให้กับทีมสำรองของบรีเนอ เขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจโดยยิง 18 ประตูจาก 14 นัด[15] เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2016 Gaute Larsen ถูกไล่ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมบรีเนอ และ Berntsen ผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนได้เลื่อนขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการ เนื่องจาก Berntsen ได้ทำงานร่วมกับโฮลันในชุดเยาวชนหลายรุ่นอายุ ผู้จัดการทีมชั่วคราวคนนี้จึงดึงโฮลันขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่แม้ว่าเขาจะมีอายุเพียง 15 ปี 9 เดือนก็ตาม[14][13] เขาลงเล่นนัดแรกให้กับทีมชุดใหญ่ในลีกระดับสองนัดที่พบกับ Ranheim เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2016[16]
หลังจากที่วางตำแหน่งปีกให้กับโฮลันในช่วงแรก Berntsen ได้ย้ายเขาไปเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าในอีกไม่กี่นัดถัดมา โฮลันลงเล่นให้กับบรีเนอทั้งสิ้น 16 นัด[15] แม้ว่าเขาจะยังไม่ประสบความสำเร็จในด้านการทำประตูในฤดูกาลกับบรีเนอ แต่เขาก็ได้รับข้อเสนอจากเทเอ็สเก 1899 ฮ็อฟเฟินไฮม์ จากเยอรมนี ก่อนที่จะย้ายไปม็อลเดอ ซึ่งอยู่ภายใต้การคุมทีมของอดีตผู้เล่นชาวนอร์เวย์ อูเลอ กึนนาร์ ซูลชาร์[14]
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 ม็อลเดอประกาศว่าได้เซ็นสัญญากับโฮลัน[17] เขาลงเล่นนัดแรกให้กับสโมสรเมื่อวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2017 ในนอร์เวเจียนคัพนัดที่พบกับโวลดา ซึ่งเขาสามารถทำประตูแรกให้กับสโมสร ช่วยให้ทีมชนะ 3–2[18] เขาลงเล่นนัดแรกในลีกเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 2017 โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 71 ในการพบกับซาร์ปสเบิร์ก 08 เขาได้รับใบเหลืองหลังจากที่ลงสนามเพียง 65 วินาที[19] อย่างไรก็ตาม เขาสามารถทำประตูชัยในนาทีที่ 77 ซึ่งเป็นประตูแรกที่เขาทำได้ในเอลีเตอเซเรียน ต่อมา เขาทำประตูที่สองในลีกของฤดูกาลเมื่อวันที่ 17 กันยายน โดยเป็นประตูชัยช่วยให้ทีมเอาชนะไวกิง 3–2 แต่เขาถูกวิพากย์วิจารณ์จากเพื่อนร่วมทีม Björn Bergmann Sigurðarson ถึงการฉลองการทำประตูต่อหน้าผู้สนับสนุนไวกิง[20] โฮลันจบฤดูกาลแรกกับม็อลเดออด้วยการทำ 4 ประตูจากการลงเล่น 20 นัด[21]
โฮลันลงเล่นให้กับม็อลเดออใน ค.ศ. 2018
วันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 โฮลันทำคนเดียวสี่ประตูภายใน 21 นาทีแรกของเกม ช่วยให้ทีมบุกเอาชนะบรันน์ 4–0 ทำลายสถิติไร้พ่ายในลีกของเจ้าบ้าน ในนัดนั้น เขาทำแฮตทริกภายในเวลา 11 นาที 2 วินาที และทำครบสี่ประตูภายในเวลา 17 นาที 4 วินาที ทีมงานแมวมองของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็มารับชมเกมนัดนี้ด้วย[22] ผู้จัดการทีมม็อลเดออ อูเลอ กึนนาร์ ซูลชาร์ เปรียบเทียบรูปแบบการเล่นของโฮลันว่าคล้ายกับของโรเมลู ลูกากู และเปิดเผยว่า สโมสรได้ปฏิเสธข้อเสนอซื้อตัวโฮลันจากสโมสรต่าง ๆ[23]
นัดถัดมา วันที่ 8 กรกฎาคม โฮลันทำสองประตูและหนึ่งแอสซิสต์ช่วยให้ทีมเอาชนะโบเลเรงกา 5–1[24] เขาทำประตูในยูฟ่ายูโรปาลีก ช่วยให้ม็อลเดออเอาชนะลาชี 3–0 เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม[25] โฮลันพลาดการลงเล่นในลีกสามนัดสุดท้ายเนื่องจากอาการข้อเท้าแพลง[26] ผลงานของเขาในลีกฤดูกาล 2018 ทำให้เขาได้รับรางวัลผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปีของเอลีเตอเซเรียน[27] เขาจบฤดูกาล 2018 ด้วยการเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของม็อลเดออจากการทำ 16 ประตูจากการลงเล่น 30 นัดจากทุกรายการ[28]
ฟิล เฮย์ จากดิแอธเลติก เปิดเผยว่า ก่อนที่โฮลันจะย้ายไปเร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค เขาเคยได้รับข้อเสนอจากลีดส์ยูไนเต็ดในแชมเปียนชิปของอังกฤษ[29]
โฮลันเล่นให้กับซัลทซ์บวร์คในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 2019
วันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 2018 สโมสรเร็ดบุลซัลทซ์บวร์คในออสเตรียนบุนเดิสลีกาประกาศว่าโฮลันจะย้ายมาร่วมทีมในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2019 โดยจะเซ็นสัญญาห้าปี[6] วันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 โฮลันทำแฮตทริกแรกให้กับสโมสรในออสเตรียนคัพนัดที่เอาชนะ SC-ESV Parndorf 7–1[30] ต่อมาในวันที่ 10 สิงหาคม เขาทำแฮตทริกแรกในออสเตรียนบุนเดิสลีกาช่วยให้ทีมเอาชนะ Wolfsberger AC 5–2[31] ต่อมาเขาทำแฮตทริกที่สามให้กับสโมสรเมื่อวันที่ 14 กันยายน ช่วยให้ทีมเอาชนะ TSV Hartberg 7–2 เขาทำ 11 ประตูจากการลงเล่นเพียง 7 นัด ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในฤดูกาลนั้น[32] สามวันถัดมา เขาลงเล่นครั้งแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 และทำแฮตทริกที่สี่กับสโมสร ช่วยให้เอาชนะเคงก์[33]
ฮาลันเป็นผู้เล่นดาวรุ่งคนที่สองในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกที่ทำประตูในสามนัดแรกที่ได้ลงเล่นในรายการนี้ครบทุกนัด ต่อจากการีม แบนเซมา โดยฮาลันทำหนึ่งประตูใส่ลิเวอร์พูลและทำสองประตูใส่นาโปลี[34] หกประตูของเขาในสามนัดแรกที่ลงเล่นนับเป็นสถิติสูงสุดของแชมเปียนส์ลีก[34] ต่อมาเมื่อเขาทำหนึ่งประตูในนาโปลี เขากลายเป็นผู้เล่นดาวรุ่งคนแรกที่ทำประตูครบทั้งสี่นัดแรกที่ลงเล่นในรายการแข่งขัน และเป็นผู้เล่นคนที่สี่ทำสถิตินี้ได้หากนับรวมทุกอายุ ต่อจากเซการ์ลูส, อาเลสซันโดร เดล ปีเอโร และดิเอโก โกสตา[7] วันที่ 27 พฤศจิกายน เขาทำอีกหนึ่งประตูใส่เคงก์ ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นคนที่หกที่ทำประตูในรายการนี้ได้ถึงห้านัดติดต่อกัน ต่อจาก เดล ปีเอโร, เซอร์ฮิว เรบรอฟ, เนย์มาร์, คริสเตียโน โรนัลโด และรอแบร์ต แลวันดอฟสกี[35][36]
โฮลันย้ายไปโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ในบุนเดิสลีกาของเยอรมนีเมื่อสองวันก่อนที่ตลาดซื้อ-ขายฤดูหนาวประจำเดือนมกราคม ค.ศ. 2020 จะเปิด ค่าตัวที่ได้รับรายงานอยู่ที่ 20 ล้านยูโร เขาเซ็นสัญญากับสโมสรสี่ปีครึ่ง[37][38] เขาลงเล่นนัดแรกให้กับสโมสรในนัดที่พบกับเอาคส์บวร์คเมื่อวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 2020 โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 56 และทำแฮตทริกภายในเวลาเพียง 23 นาที ช่วยให้ทีมชนะ 5–3[39] เขากลายเป็นผู้เล่นคนที่สองของดอร์ทมุนท์ที่ทำสามประตูในนัดแรกที่ลงเล่นในบุนเดิสลีกา ต่อจากปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์[40] ในนัดที่สองที่ลงเล่นให้กับดอร์ทมมุนท์ เมื่อวันที่ 24 มกราคม พบกับแอร์สเทอ เอ็ฟเซ เคิลน์ โฮลันลงเล่นเป็นตัวสำรองอีกครั้งในนาทีที่ 65 และทำประตูแรกหลังจากที่ลงสนามเพียง 12 นาที ก่อนที่จะทำประตูที่สองในอีก 10 นาทีถัดมา ช่วยให้ทีมของเขาเอาชนะ 5–1[41] โฮลันกลายเป็นผู้เล่นคนแรกในบุนเดิสลีกาที่ทำ 5 ประตูจากการลงเล่นในสองนัดแรก เช่นเดียวกันกับผู้เล่นที่ทำถึง 5 ประตูในรายการนี้ได้เร็วที่สุด (56 นาที)[42] วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 โฮลันทำสองประตูช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง 2–1 ในเลกแรกของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ดาวรุ่งชาวนอร์เวย์ทำ 10 ประตูในแชมเปียนส์ลีกจากการลงเล่นเพียง 8 นัด แบ่งเป็น 8 ประตูกับเร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค และ 2 ประตูกับโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์[43]
เมื่อบุนเดิสลีกากลับมาแข่งใหม่อีกครั้ง หลังจากหยุดพักไปเนื่องจากการระบาดทั่วของไวรัสโคโรนา โฮลันทำประตูแรกหลังพักลีก ช่วยให้ทีมเอาชนะชัลเคอ 04 4–0 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม[44] ประตูนี้เป็นประตูที่ 10 ของเขาในบุนเดิสลีกา วันที่ 20 มิถุนายน ค.ศ. 2020 โฮลันทำสองประตูช่วยให้ทีมเอาชนะแอร์เบ ไลพ์ซิช 2–0 ทำให้ดอร์ทมุนท์ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลถัดไป[45]
ในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 ทางสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีประกาศว่าได้ทำการเซ็นสัญญาโฮลันด้วยค่าฉีกสัญญา 60 ล้านยูโร[46] จากนั้นในวันที่ 13 มิถุนายน ทางสโมสรประกาศอย่างเป็นทางการว่าโฮลันจะเข้าร่วมสโมสรในวันที่ 1 กรกฎาคม โดยมีระยะเวลาสัญญาจ้าง 5 ปี[47]
โฮลันลงสนามนัดแรกในการแข่งขันเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 2022 ซึ่งเขาลงเล่นครบ 90 นาที และแมนเชสเตอร์ซิตีแพ้ลิเวอร์พูล 1–3[48] ในวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 2022 เขาลงสนามนัดแรกในพรีเมียร์ลีกและทำสองประตูในนัดที่แมนเชสเตอร์ซิตีบุกไปชนะเวสต์แฮมยูไนเต็ด 2–0[49] ถัดมา ในวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 2022 เขาทำแฮตทริกครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกได้ ในนัดที่ทีมเอาชนะคริสตัลพาเลซ 4–2 ตามด้วยการทำแฮตทริกอีกครั้งในอีกสี่วันถัดมา ในนัดที่แมนเชสเตอร์ซิตีเอาชนะนอตทิงแฮมฟอเรสต์ 6–0[50] ส่งผลให้โฮลันกลายเป็นนักเตะที่ใช้เวลาน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ทำแฮตทริกได้สองครั้ง[51] ในวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 2022 โฮลันทำสองประตูช่วยให้ทีมบุกไปชนะเซบิยา 4–0 ในรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่าแชมเปียนส์ ส่งผลให้เขาเป็นผู้เล่นคนแรกที่ทำ 25 ประตูจากการลงสนาม 20 นัดในรายการนี้[52][53] ก่อนจะคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกประจำเดือนสิงหาคมในวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2022[54] ต่อมา ในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2022 โฮลันสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักเตะคนแรกในยุคพรีเมียร์ลีกที่ทำแฮตทริกจากการแข่งขันเกมเหย้า 3 นัดติดต่อกัน ในนัดที่แมนเชสเตอร์ซิตีเปิดบ้านเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 6–3[55]
แม้ว่าจะสามารถเลือกเล่นให้กับอังกฤษ แต่โฮลันเลือกเล่นให้กับนอร์เวย์และเป็นตัวแทนของทีมชาตินอร์เวย์ในหลายรุ่นอายุ ตอนที่เล่นให้กับทีมชาตินอร์เวย์รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี[56] เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 2018 เขาทำแฮตทริกช่วยให้ทีมเอาชนะสกอตแลนด์ 5–4 ทำให้นอร์เวย์ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี 2018[57] ต่อมาในรอบสุดท้าย วันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 โฮลันทำประตูให้กับทีมชาตินอร์เวย์รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีในนัดที่เสมอกับอิตาลี 1–1[58]
วันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 โฮลันทำ 9 ประตูช่วยให้นอร์เวย์เอาชนะฮอนดูรัส 12–0 ในการแข่งขันฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี 2019 ที่ลูบลินในโปแลนด์[59][60] ทำให้เป็นชัยชนะที่ขาดลอยที่สุดของทีมชาตินอร์เวย์รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี และเป็นความพ่ายแพ้ขาดลอยที่สุดของทีมชาติฮอนดูรัสรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี นอกจากนี้ เขายังทำสถิติทำประตูมากที่สุดต่อหนึ่งนัดในฟุตบอลโลกเยาวชน[61] และนัดนี้ก็เป็นนัดที่มีทีมชนะขาดลอยมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกเยาวชน[62] อย่างไรก็ตาม นอร์เวย์ตกรอบแบ่งกลุ่มและโฮลันไม่ได้ทำประตูในนัดที่เหลือ แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เขาได้รับรางวัลรองเท้าทองคำ[63]
หลังจากที่ทำผลงานอันยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี 2019 ประกอบด้วยกับผลงานที่ดีกับเร็ดบุลซัลทซ์บวร์คที่เขาทำ 6 ประตูจากการลงเล่นในลีก 4 วันแรก ทำให้ในวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 2019 โฮลันจึงถูก Lars Lagerbäck เรียกติดทีมชาตินอร์เวย์ชุดใหญ่ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบคัดเลือก นัดที่จะพบกับมอลตาและสวีเดน เขาลงเล่นนัดแรกให้กับทีมชาติชุดใหญ่เมื่อวันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 2019 ในนัดที่พบกับมอลตา[8] วันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 2020 โฮลันทำประตูแรกในนามทีมชาติในนัดที่แพ้ออสเตรีย 1–2 ในยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 ลีกบี[64] ต่อมาในวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 2020 เขาทำสองประตูในนัดที่พบกับนอร์เทิร์นไอร์แลนด์[65]
โฮลันกระโดดข้ามแนวรับฝั่งตรงข้ามสมัยที่เล่นให้กับเร็ดบุลซัลทซ์บวร์คในปี 2019
โฮลันได้รับการยอมรับในด้านการวิ่งและก้าวที่ทรงพลัง ความเป็นนักกีฬา ความแข็งแรง และการจ่ายลูกบอลที่แม่นยำ การวิ่งของโฮลันในแนวรับฝั่งตรงข้ามทำให้เขาอยู่ในตำแหน่งที่ดีต่อการทำประตู[66] โฮลันมีความเร็วจนเป็นที่ยอมรับว่าผู้เล่นทีมคู่แข่งมัวแต่สนใจลูกบอลจนเขาได้โอกาสสอดแทรกในช่องว่างระหว่างแนวรับคู่แข่งเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับเพื่อนร่วมกัมของเขา[66] ในช่วงอาชีพเพียงระยะสั้น ๆ โฮลันกลายเป็นผู้เล่นที่ถนัดการทำประตู โดยเขาสามารถทำประตูได้ผ่านการยิงไกลอันทรงพลัง การยิงในตำแหน่งที่ดี การดวลตัวต่อตัวกับผู้รักษาประตู และการโหม่ง[66]
ในฐานะผู้เล่นที่เล่นกันเป็นทีม โฮลันเป็นผู้ที่อ่านเกมได้อย่างมีสันชาตญาณและรวดเร็ว จนกระทั่งว่าความเร็วในการกระโจนทำให้เขามีกรอบผู้เล่นที่กว้าง เขาสามารถเอาชนะการครอบครองบอลหรือจ่ายบอลยาวย้อนหลังให้กับเพื่อนร่วมทีมได้[66] ช่วงที่เล่นให้กับดอร์ทมุนท์ การเล่นเชิงกลยุทธ์ของเขาช่วยให้เพื่อนร่วมทีมอย่างเจดอน แซนโช, อัชร็อฟ ฮะกีมี และตอร์กาน อาซาร์ มีพื้นที่สำหรับทำประตูหรือแอสซิสต์ได้[66] เมื่อโฮลันกำลังจะเชื่อมเกม เขาจะอยู่ในตำแหน่งอ้างอิงและใช้ความแข็งแกร่งป้องกันบอลจากคู่แข่งได้[67]
โฮลันสามารถวิ่งผ่านและหลอกกองหลังฝั่งตรงข้าม ขณะเดียวกันก็เปลี่ยนทิศทางการวิ่งไปด้วย[66] นอกจากนี้ เขายังเรียกฟาล์วได้กลายครั้ง[66] ความแม่นยำในการวิ่งทำให้เขากระโจนไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้ และการเคลื่อนไหวที่เฉียบคมอย่างการวิ่งซิกแซ็กและการเคลื่อนที่สองจังหวะ ทำให้เขาเคลื่อนที่ได้อย่างลื่นไหล[66] สิ่งนี้เป็นผลดีเมื่อเขาอยู่ในกรอบเขตโทษและมีโอกาสในการทำประตูหรือโจมตีกองหลังหรือตัดบอลเข้าใน [68]
โฮลันเป็นบุตรของ Alf-Inge Håland อดีตนักฟุตบอลของนอตทิงแฮมฟอเรสต์ ลีดส์ยูไนเต็ด และแมนเชสเตอร์ซิตี และ Gry Marita Braut อดีตนักสัตตกรีฑาหญิง[69] เขาเกิดที่ลีดส์และสนับสนุนลีดส์ยูไนเต็ด ในบทความสัมภาษณ์ของหนังสือพิมพ์นอร์เวย์ Aftenposten เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 โฮลันกล่าวว่าอยากคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับลีดส์[70]
โฮลันกล่าวถึงคริสเตียโน โรนัลโด, มิชู, เจมี วาร์ดี และโรบิน ฟัน แปร์ซีเป็นแรงบันดาลใจ และยกให้เฟอร์จิล ฟัน ไดก์กับเซร์ฆิโอ ราโมสเป็นสองในกองหลังที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยเล่นมา[71][72]
ณ วันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 2022
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ถ้วยแห่งชาติ[a] | ยุโรป | อื่น ๆ | ทั้งหมด | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ระดับ | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
บรีเนอ 2 | 2015[73] | 3. divisjon | 3 | 2 | — | — | — | 3 | 2 | |||
2016[73] | 3. divisjon | 11 | 16 | — | — | — | 11 | 16 | ||||
รวม | 14 | 18 | — | — | — | 14 | 18 | |||||
บรีเนอ | 2016[73] | 1. divisjon | 16 | 0 | 0 | 0 | — | — | 16 | 0 | ||
ม็อลเดอ 2 | 2017[73] | 3. divisjon | 4 | 2 | — | — | — | 4 | 2 | |||
ม็อลเดอ | 2017[73] | เอลีเตอเซเรียน | 14 | 2 | 6 | 2 | — | — | 20 | 4 | ||
2018[73] | เอลีเตอเซเรียน | 25 | 12 | 0 | 0 | 5[b] | 4 | — | 30 | 16 | ||
รวม | 39 | 14 | 6 | 2 | 5 | 4 | — | 50 | 20 | |||
เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค | 2018–19[74] | ออสเตรียนบุนเดิสลีกา | 2 | 1 | 2 | 0 | 1[b] | 0 | — | 5 | 1 | |
2019–20[74] | ออสเตรียนบุนเดิสลีกา | 14 | 16 | 2 | 4 | 6[c] | 8 | — | 22 | 28 | ||
รวม | 16 | 17 | 4 | 4 | 7 | 8 | — | 27 | 29 | |||
โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ | 2019–20[74] | บุนเดิสลีกา | 15 | 13 | 1 | 1 | 2[c] | 2 | — | 18 | 16 | |
2020–21[74] | บุนเดิสลีกา | 28 | 27 | 4 | 3 | 8[c] | 10 | 1[d] | 1 | 41 | 41 | |
2021–22[74] | บุนเดิสลีกา | 24 | 22 | 2 | 4 | 3[c] | 3 | 1[d] | 0 | 30 | 29 | |
รวม | 67 | 62 | 7 | 8 | 13 | 15 | 2 | 1 | 89 | 86 | ||
แมนเชสเตอร์ซิตี | 2022–23[75] | พรีเมียร์ลีก | 9 | 15 | 0 | 0 | 3 | 5 | 1[e] | 0 | 13 | 20 |
รวมทั้งหมด | 165 | 128 | 17 | 14 | 28 | 32 | 3 | 1 | 213 | 175 |
ณ วันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 2022[76]
ทีมชาติ | ปี | ลงเล่น | ประตู |
---|---|---|---|
นอร์เวย์ | 2019 | 2 | 0 |
2020 | 5 | 6 | |
2021 | 8 | 6 | |
2022 | 7 | 9 | |
รวม | 22 | 21 |
ณ วันที่ 29 มีนาคม ค.ศ. 2022
ลำดับ | วันที่ | สนาม | คู่แข่ง | ประตู | ผล | รายการแข่งขัน | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | 4 กันยายน ค.ศ. 2020 | Ullevaal Stadion, ออสโล, ประเทศนอร์เวย์ | ออสเตรีย | 1–2 | 1–2 | ยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 ลีกบี | [77] |
2 | 7 กันยายน ค.ศ. 2020 | วินด์เซอร์พาร์ก เบลฟาสต์ ไอร์แลนด์เหนือ | ไอร์แลนด์เหนือ | 2–1 | 5–1 | ยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 ลีกบี | [78] |
3 | 5–1 | ||||||
4 | 11 ตุลาคม ค.ศ. 2020 | Ullevaal Stadion, ออสโล, ประเทศนอร์เวย์ | โรมาเนีย | 1–0 | 4–0 | ยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 ลีกบี | [79] |
5 | 3–0 | ||||||
6 | 4–0 | ||||||
7 | 2 มิถุนายน ค.ศ. 2021 | สนามกีฬาลาโรซาเลดา, มาลากา, ประเทศสเปน | ลักเซมเบิร์ก | 1–0 | 1–0 | กระชับมิตร | [80] |
8 | 1 กันยายน ค.ศ. 2021 | Ullevaal Stadion, ออสโล, ประเทศนอร์เวย์ | เนเธอร์แลนด์ | 1–0 | 1–1 | ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก | [81] |
9 | 4 กันยายน ค.ศ. 2021 | สนามกีฬาเดากาวา, รีกา, ประเทศลัตเวีย | ลัตเวีย | 1–0 | 2–0 | ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก | [82] |
10 | 7 กันยายน ค.ศ. 2021 | Ullevaal Stadion, ออสโล, ประเทศนอร์เวย์ | ยิบรอลตาร์ | 2–0 | 5–1 | ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก | [83] |
11 | 3–0 | ||||||
12 | 5–1 | ||||||
13 | 25 มีนาคม ค.ศ. 2022 | Ullevaal Stadion, ออสโล, ประเทศนอร์เวย์ | สโลวาเกีย | 1–0 | 2–0 | กระชับมิตร | [84] |
14 | 29 มีนาคม ค.ศ. 2022 | Ullevaal Stadion, ออสโล, ประเทศนอร์เวย์ | อาร์มีเนีย | 1–0 | 9–0 | กระชับมิตร | [85] |
15 | 5–0 |
นอร์เวย์ อายุไม่เกิน 17 ปี
รางวัลส่วนตัว
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี